วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 5
วันจันทร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น.

Knowledge (ความรู้)

       - ทบทวน Mind mapping ของแต่ละหน่วยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 
เกร็ดความรู้ --> การจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย ต้องจัดให้เหมาะสมกับพัฒนาการ 
และสอดคล้องกับการเรียนรู้ของเด็ก
       
       - Mind mapping การบูรณาการทักษะวิชา

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ดิน (ตัวอย่างจากอาจารย์ผู้สอน)

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ผีเสื้อแสนสวย
หาข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละหัวข้อ เช่น ภาษา ควรเพิ่มการเล่านิทาน การร้องเพลง คำคล้องจองฯลฯ

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ยานพาหนะ

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ไข่

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ตัวเรา

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย ของเล่นของใช้

การบูรณาการทักษะวิชา หน่วย แหล่งน้ำ

       - Mind mapping แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) 

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ผีเสื้อแสนสวย

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ยานพาหนะ

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ของเล่นของใช้

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ไข่

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ตัวเรา

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย แหล่งน้ำ

แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) หน่วย ฝนจ๋า

Vocabulary (เคำศัพท์)
Integration - บูรณาการ
Animation and Rhythm - กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
Water source - แหล่งน้ำ
Vehicle - ยานพาหนะ
Soil - ดิน

Applied (การประยุกต์ใช้)
        จากเนื้อหาที่เรียนในสัปดาห์นี้ สามารถนำหน่วยการเรียนรู้ที่ทำรวมกับเพื่อนและกลุ่มอื่นๆไปใช้สอนนักเรียนได้จริง และนำแนวทางในการคิดเนื้อหาสาระของหน่วย และคิดกิจกรรมตามหน่วยที่นักเรียนต้องการเรียนรู้และหน่วยที่ครูอยากให้นักเรียนเรียนรู้

Evaluation (การประเมิน)
Self (ประเมินตนเอง)
       เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน จดบันทึกข้อมูลหรือเนื้อหาความรู้เพิ่มเติม ตั้งใจทำ Mind mapping 
การบูรณาการทักษะวิชาและ Mind mapping แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม)
Friends (ประเมินเพื่อน)
       เพื่อนตั้งใจเรียน มีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ ตอบคำถามและให้ความร่วมมือในการเรียนตั้งใจทำ Mind mapping การบูรณาการทักษะวิชาและ Mind mapping แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม)
Teacher (อาจารย์)
       อาจารย์มีการเตรียมการเรียนการสอนมาเป็นอย่างดี ตรงต่อเวลา แนะนำเนื้อหาที่ควรเพิ่มเติมในการทำ Mind mapping การบูรณาการทักษะวิชาและ Mind mapping แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (กิจกรรมหลัก6กิจกรรม) 

Photo Gallery (ประมวลภาพกิจกรรม)










วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 4
วันจันทร์ ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น.

Knowledge (ความรู้)
นำเสนองานกลุ่ม
·       การสอนแบบมอนเตสซอรี่
·       ภาษาธรรมชาติ
·       การทำสารนิทัศน์
·       การทำ Portfolio
·       การสอนแบบวอลดอร์ฟ
·       การเรียนการสอนแบบไฮสโคป

หลักสูตรการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori)
        มอนเตสซอรี่ เชื่อว่า เด็ก คือผู้รู้ความต้องการของตนเองและมีความสามารถที่จะซึมซับการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมได้ หลักสูตรของมอนเตสซอรี่สำหรับเด็กวัย 3-6 ขวบ ครอบคลุมการศึกษา 3 ด้านคือ
        1.การศึกษาทางด้านทักษะกลไก (Motor Education)
        2.การศึกษาทางด้านประสาทสัมผัส (Education of the Senses)
        3.การตระเตรียมสำหรับการเขียนและคณิตศาสตร์ (Preparation for Writing and Arithmetic)
        หลักสูตรการสอนแบบมอนเตสซอรี่ ดร.มาเรีย มอนเตสซอรี่ เป็นผู้ริเริ่มคิดและจัดตั้งวิธีการสอนแบบมอนเตสซอรี่ จากความเชื่อในการจัดการศึกษาให้แก่เด็กในระยะเริ่มต้นว่า จุดมุ่งหมายในการให้การศึกษาในระยะแรกนั้น ไม่ใช่การเอาความรู้ไปบอกให้เด็ก แต่ควรเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามความต้องการตามธรรมชาติของเขา การที่จะช่วยให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามขั้นตอนของความสามารถนั้น ควรจะต้องพัฒนาการสอนให้สัมพันธ์กับพัฒนาการความต้องการของเด็ก ที่ต้องการจะเป็นอิสระในขอบเขตที่กำหนดไว้ให้ ตลอดจนการจัดสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ และพิถีพิถัน การสอนแบบมอนเตสซอรี่ ได้มาจากการที่มอนเตสซอรี่ได้สังเกตเด็กในสภาพที่เป็นจริงของเด็ก ไม่ใช่สภาพที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เด็กเป็น จากการสังเกตเด็ก จึงได้พัฒนาวิธีการสอน การจัดเตรียมสิ่งแวดล้อม และอุปกรณ์การสอนต่างๆ ขึ้นมาใช้ โดยเริ่มต้นจากการทดลองที่โรงเรียน ที่มอนเตสซอรี่เข้าไปรับผิดชอบ ที่เรียกว่า Casa Dei Bambini หรือ Children's House แล้ววิธีการสอนนี้จึงได้แพร่หลายต่อไปจนทั่วโลกเช่นในปัจจุบัน
ปรัชญาและหลักการสอน
        1.เด็กจะต้องได้รับการยอมรับนับถือ เด็กจะต้องได้รับการยอมรับนับถือในสภาพที่แตกต่างไปจากผู้ใหญ่
        2.เด็กที่มีจิตซึมซับได้ มนุษย์เรานี้เป็นผู้ให้การศึกษาแก่ตนเองและเปรียบจิตของเด็กเหมือนฟองน้ำ ซึ่งจะซึมซับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อม
        3.ช่วงเวลาหลักของชีวิต คือ คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด สำหรับการเรียนรู้ในระยะแรกเป็นช่วงพัฒนาสติปัญญาและเด็กสามารถเรียนทักษะเฉพาะอย่างได้อย่างดี
        4. การเตรียมสิ่งแวดล้อม มอนเตสซอรี่เชื่อว่า เด็กเรียนได้ดีที่สุดในสภาพการจัดสิ่งแวดล้อมที่ได้ตระเตรียมเอาไว้อย่างมีจุดหมายการจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมเช่นนี้เพื่อให้เด็กได้มีอิสระจากการควบคุมของผู้ใหญ่
        5. การศึกษาด้วยตนเอง เด็กสามารถเรียนได้ด้วยตนเองจากการที่เด็กมีอิสระในสิ่งแวดล้อมที่จัดเตรียมไว้อย่างสมบรูณ์
จุดมุ่งหมายของการศึกษา
        ช่วยพัฒนา หรือให้เด็กมีอิสระในด้านบุคลิกภาพของเด็กในวิถีทางต่างๆ อย่างมากมาย"สิ่งแวดล้อมของโรงเรียนระบบมอนเตสเซอรี่ คือ การจัดระบบเพื่อสะท้อนถึงศักยภาพที่แท้จริง และความต้องการของเด็ก เพื่อเด็กจะได้พัฒนาบุคลิกภาพของเขาลักษณะการสอนระบบนี้ เด็กจะก้าวหน้าไปตามธรรมชาติตามพัฒนาการของเด็ก เด็กมีอิสรภาพในการเลือกจากสิ่งแวดล้อมที่มีสิ่งต่างๆ ซึ่งสนองความพอใจ และความต้องการภายในของเขา เป็นการจัดระบบของตนเอง เพื่อเด็กจะได้ปรับตัวเข้ากับสภาพของสังคมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ
        หลักสูตรนี้คือการจัดการเรียนการสอนที่มีแนวคิด คำนึงถึงความสนใจ ความต้องการและความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนรู้ รวมทั้งแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตนเองของเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างอิสระในขอบเขตที่กำหนดไว้ให้มีการเตรียมสิ่งแวดล้อม จัดห้องเรียนให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ให้เด็กซึมซับสิ่งแวดล้อมรอบตัว จนเกิดความอยากรู้ อยากเห็น และแสวงหาความรู้อย่างมีสมาธิ มีวินัยในตนเอง ให้เด็กเกิดการพัฒนาการทุก ๆ ด้านไปในเวลาเดียวกัน
วิธีการจัดการเรียนการสอน
     เน้นการเรียนรู้ตามลำดับขั้น ไม่ต้องการให้เด็กลองผิดลองถูก สร้างสมาธิ ความมั่นใจ ครูสามารถวินิจฉัยและแก้ปัญหาการเรียนรู้ของเด็กได้ โดยสาธิตและฝึกให้เด็กเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตนเอง
การเตรียม ครูเตรียมอุปกรณ์การศึกษาเด็กสามารถเข้าเรียนแบบคละอายุได้
การดำเนินการ ขั้นนำ เด็กเลือกอุปกรณ์การศึกษาตามความสนใจ ,ขั้นสอน ครูสาธิตให้เด็กดู
ขั้นสรุป ครูให้เด็กเก็บอุปกรณ์ ครูบันทึกความรู้ ครูบันทึกรายการอุปกรณ์
การจัดสิ่งแวดล้อม
     ห้องเรียนแบบเปิด (Open Classroom) นั่งสบาย บรรยากาศเหมือนบ้าน มีเครื่องใช้อุปกรณ์ที่จัดอย่างมีระเบียบ ของใช้จะมีขนาดเหมาะสมกับเด็ก ติดกระดาน ในระดับที่เด็กสามารถใช้งานได้ มีพื้นที่ให้เด็กได้เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมบนพื้นได้ ชั้นวางของมีความสูงในระดับที่เด็กสามารถหยิบใช้งานได้
บทบาทครู
        1.จัดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ (อุปกรณ์4หมวด บรรยากาศ บุคคล)
        2. เชื่อมโยงเด็กกับอุปกรณ์ โดยสาธิตการใช้อุปกรณ์
        3. มีความรักเด็ก ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิต
        4. ยอมรับนับถือเด็ก ให้อิสระในการเลือก คิด ทำ
        5. ให้เด็กศึกษาค้นพบด้วยตนเอง
        6.ไม่ตำหนิ ทำโทษ หรือให้รางวัล
        7.สังเกตพฤติกรรมเด็ก บันทึกข้อมูล เพื่อวางแผนพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคล
        8.พัฒนาอุปกรณ์ส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้ถึงขีดสุดของศักยภาพของแต่ละบุคคล
        9. เป็นแบบอย่างที่ดีทั้งกาย วาจา และ จิต ใจ
        10. พบปะผู้ปกครอง เพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการเด็กเป็นระยะ
ประโยชน์ที่เด็กได้รับ
1.มีพัฒนาการทุกด้านเต็มตามศักยภาพ
2.มีระเบียบวินัย
3.มีสมาธิในการทำงาน รักความสงบ
4.ควบคุมตนเองและพึ่งพาตนเองได้
5.ทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น
6.รู้สิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น
7.มีมารยาทตามวัฒนธรรมที่ตนอาศัยอยู่
8.รักอิสระและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
9.รักสิ่งแวดล้อม

การเรียนการสอนภาษาแบบธรรมชาติ (Whole language Approach)
        โรงเรียนแนวการสอนภาษาแบบธรรมชาติ (Whole language Approach) เป็นโรงเรียนที่มีแนวการสอนภาษาแบบบูรณาการ โดยมีปรัชญาหรือแนวคิดว่า เด็กเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่จะเรียนรู้ภาษาได้ด้วยตัวเองจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ผ่านการพูด ฟัง อ่าน เขียน โดยมีเด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้นั้นๆ เอง ไม่ใช่การฝึกให้เด็กท่องจำเป็นคำๆ หรือสอนว่าควรอ่านก่อน ถึงจะเรียนเขียน แต่สอนให้เด็กเข้าใจความหมายของคำเป็นประโยคเพื่อใช้ในการสื่อสารเป็นหลัก
ลักษณะการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
        1.เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ เด็กมีโอกาสเลือกกิจกรรมปฏิบัติอย่างอิสระ ครูเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ และร่วมมือจัดการเรียนการสอนร่วมกันระหว่างเด็กกับครู และการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น
        2.ผู้ใหญ่เป็นนักอ่านที่ดีให้เด็กเห็นเป็นแบบอย่างและผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้เด็กฟังให้เด็กมีโอกาส
ซึมซับภาษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ภาษา
        3.เด็กสามารถเกิดประสบการณ์ทางภาษาได้ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ดังนั้น การที่เด็กมาโรงเรียน เขาได้รู้ ได้เห็นสัญลักษณ์ทางภาษารอบตัว และการที่เด็กได้ยิน ได้ฟัง ได้สนทนาโต้ตอบ ก็ถือเป็นการใช้ภาษา
        4.เมื่อเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีภาษาหรือตัวหนังสือ มีมุมอ่าน/เขียน ป้ายประกาศต่างๆ มุมนิทานให้เด็กได้ใช้ภาษาพูด เล่าเรื่องราว ที่จะทำให้เด็กได้คุ้นเคยกับภาษา
        แนวการสอนภาษาแบบธรรมชาติจึงอาจสรุปได้ว่า เป็นการจัดประสบการณ์ให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาจากสิ่งที่มีความหมายในชีวิตประจำวัน โดยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ภาษาในการสื่อสาร เช่น การถามตอบง่ายๆ การเล่านิทาน การช่วยกันแต่งนิทาน การแสดงบทบาทสมมติ เป็นต้น โดยมีครูเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาให้เด็กพัฒนาทักษะทางภาษาทั้งในด้าน การฟัง พูด อ่าน และเขียน และกระตุ้นให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครูในบรรยากาศที่อบอุ่น


สารนิทัศน์ในระดับเด็กปฐมวัย (Documentation for Young Children)
        สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย หมายถึง การจัดทำข้อมูลที่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นร่องรอยของการเจริญเติบโต พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย จากการทำกิจกรรมทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม
กระบวนการจัดทำสารนิทัศน์ตามแนวคิดของพัชรี ผลโยธิน
·  การเตรียมความพร้อมในการจัดทำสารนิทัศน์  ขั้นแรก ของการจัดทำประกอบด้วย การรวบรวมวัสดุอุปกรณ์  กำหนดเป้าหมาย จุดมุ่งหมาย วางแผนการทำ และเตรียมเด็กให้มีส่วนร่วม
·  การจัดทำสารนิทัศน์  ขั้นที่สอง ประกอบด้วย การรวบรวมข้อมูล โดยบันทึกข้อมูลจากการสังเกต ถ่ายภาพ  บันทึกและไตร่ตรองข้อมูล
·  การจัดแสดงสารนิทัศน์ ขั้นสุดท้าย คล้ายกับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ จะต้องสร้างความสนใจ จัดวางให้เหมาะสมแก่ผู้ชม
สารนิทัศน์มี 5 ประเภท ดังนี้
สารนิทัศน์ประเภทที่ 1 การบรรยายเรื่องราว หรือประสบการณ์
สารนิทัศน์ประเภทที่ 2 การสังเกตพัฒนาการเด็ก
สารนิทัศน์ประเภทที่ 3 แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)
สารนิทัศน์ประเภทที่ 4 ผลงานรายบุคคลและรายกลุ่ม
สารนิทัศน์ประเภทที่ 5 การสะท้อนตนเอง
เทคนิคการจัดทำสารนิทัศน์
        การจัดทำสารนิทัศน์ เป็นสิ่งที่ครูต้องคำนึง และ เอาใจใส่ ต้องเปิดใจ เข้าใจ เรียนรู้และพัฒนาการจัดการชั้นเรียน รู้จักการเก็บข้อมูลขณะที่เด็กทำกิจกรรม รู้จักหลักการสะท้อนกลับข้อมูล รู้จักวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เห็นกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาการของเด็กที่เหมาะสมกับช่วงวัย
ข้อมูลจากหนังสือ: การจัดทำสารนิทัศน์ในระดับปฐมวัย เขียนโดย รศ.ดร.พัชรี ผลโยธิน ดร.วรนาท รักสกุลไทย และคณะครูอนุบาลโรงเรียนเกษมพิทยา

แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
จุดประสงค์แฟ้มสะสมผลงาน
1.       เห็นคุณภาพของงานและการคิดของเด็ก
2.       แสดงความก้าวหน้าของเด็กในเวลาที่ล่วงไป
3.       ประเมินงานของเด็กแต่ละคน
4.       สะท้อนประสบการณ์ที่เด็กได้รับ
5.       ให้โอกาสสะท้อนสิ่งที่คาดหวังในงานของเด็ก
6.       ให้ข้อมูลที่สำคัญที่เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเด็ก และกิจกรรมที่ทำแก่เด็กคุณครู ครอบครัว ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจ
องค์ประกอบแฟ้มสะสมผลงาน (สมนึก นนธิจันทร์: 2540)
1.       ส่วนปก ปกนอกและปกใน
2.       ส่วนนำ คำนำ ข้อมูลผู้เรียน สารบัญ
3.       ส่วนเนื้อหา เป็นส่วนรวบรวมหลักฐาน ผลงาน เอกสารต่างๆที่แสดงถึงความรู้ ทักษะ และเจตคติของผู้เรียน
4.       ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมหรือภาคผนวก ปฏิทินปฏิบัติงานในการเก็บผลงานแผนการสะสมผลงาน ข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์  และแบบประเมินอื่นๆ ผลงานเด็ก สมุดพก ข้อมูลต่างๆ ของเด็ก

การศึกษาแนววอลดอร์ฟ (Waldorf)
        การศึกษาแนววอลดอร์ฟนี้จึงเน้นเรื่องของการเชื่อมโยงมนุษย์กับจักรวาล โดยมีมุมมองว่า เด็กควรได้เล่นอย่างอิสระ ชีวิตเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ เน้นการสอนให้รู้จักจุดยืนที่สมดุลของตนในการใช้ชีวิตอยู่บนโลก โดยผ่านกิจกรรม 3 อย่างคือ กิจกรรมทางกาย ผ่านอารมณ์ความรู้สึก และผ่านการคิด เน้นการให้เด็กได้ใช้พลังทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ด้านศิลปะ และด้านการปฏิบัติอย่างพอเหมาะ
กิจกรรมที่มุ่งเน้นในโรงเรียนวอลดอร์ฟ
     ส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนแนววอลดอร์ฟมักจะเน้นไปที่การเรียนรู้แบบธรรมชาติ ไม่มีห้องเรียน ไม่มีกระดานดำ แต่จะมีมุมต่างๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ ได้เป็นอิสระที่จะคิดและสร้างสรรค์ หรือหากเด็กๆ ต้องการเล่นตุ๊กตา เล่นรถ ในห้องก็จะมีข้าวของที่ทำจากธรรมชาติให้ประดิษฐ์ดัดแปลงเล่นกัน เช่น ผ้าหลากสี ท่อนไม้ เปลือกไม้ ลูกสน เป็นต้น ทุกอย่างจะถูกกำหนดให้เป็นได้สารพัดตามแต่ใจเด็กๆ จะคิดฝันให้ออกมาเป็นอะไร หรือกำลังเล่นอะไร เช่น การวาดรูปด้วยสีน้ำ ปั้นดินเหนียว ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร งานฝีมือ ล้างจาน เป็นต้น
บทบาทครู (3R) 
        การทำซ้ำ (Repetition) เพื่อให้เกิดมั่นคง ครูควรทำกิจกรรมการเรียนการสอนและงานบ้านต่างๆอย่างสม่ำเสมอ หรือเรียกว่าการทำซ้ำ
        จังหวะ (Rhythm) เพื่อให้สิ่งแวดล้อมมีบรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของวัยเด็ก ครูควรจัดตารางประจำวัน ตารางกิจกรรมในสัปดาห์ และเทศกาลประจำปี ให้สอดคล้องกับจังหวะที่ราบรื่นแบบลมหายใจเข้าและออก ให้ตารางของช่วงนั้นๆเหมาะสมลื่นไหล ไม่อัดแน่นหรือติดขัด หรือเรียกว่า การรักษาจังหวะ หรือ ความรู้สึกแบบท่วงทำนอง
        เคารพ (Reverence) ด้วยความตระหนักรู้ที่ว่า มนุษย์เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทำให้เราอยู่ในโลกด้วยความรู้สึกกตัญญูและเคารพต่อธรรมชาติ ทั้งยังเคารพต่อศักยภาพของความเป็นมนุษย์

การเรียนการสอนแบบไฮสโคป (High Scope)
        ไฮสโคป (High Scope) เป็นการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำ ผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น โดยการให้โอกาสเด็กเป็นผู้ริเริ่มการเล่นหรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างอิสระ
วงล้อการเรียนรู้ของไฮสโคป (High Scope)


การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่และเด็ก (Adult-Child Interaction)
        การเรียนรู้แบบลงมือกระทํานั้นจะประสบความสําเร็จได้  เมื่อผู้ใหญ่และเด็กมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  ไฮสโคปจึงเน้นให้ผู้ใหญ่สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและปลอดภัยให้แก่เด็ก
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ (Learning Environment)
        1. พื้นที่ ต้องมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม เพื่อให้เอื้อต่อการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนแบบร่วมมือกระทำ
        2. วัสดุอุปกรณ์ สื่อการเรียนและอุปกรณ์ต้องมีมากพอและหลากหลาย
        3. การจัดเก็บ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรการค้นหา-ใช้-เก็บคืน
กิจวัตรประจำวัน (PDR)
        1. การวางแผน (Plan) เป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ หรือการดำเนินงานตามงานที่ได้รับมอบหมายหรือสิ่งที่สนใจด้วยการสนทนาร่วมกันระหว่างครูกับเด็ก และเด็กกับเด็ก ว่าจะทำอะไร อย่างไร การวางแผนกิจกรรมนี้เด็กอาจแสดงด้วยภาพหรือสัญลักษณ์ประจำตัวเด็กหรือบอกให้ครูบันทึก เป็นกระบวนการที่เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ
        2. การปฏิบัติ (Do) คือ การลงมือทำกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ และทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กำหนดโดย มีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง
        3. การทบทวน (Review) เด็ก ๆ จะเล่าถึงผลงานที่ตนเองได้ลงมือทำเพื่อทบทวนว่าตนเองนั้นได้ปฏิบัติงานตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การทบทวนจุดประสงค์ที่แท้จริงคือ ต้องการให้เด็กได้เชื่อมโยงแผนการปฏิบัติงานกับผลงานที่ทำ รวมถึงการเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง

การประเมินพัฒนาการ (Assessment)
        โปรแกรมไฮสโคป การประเมินถือเป็นงานโดยตรงของครูที่จะต้องตั้งใจปฏิบัติและเอาใจใส่อย่างเต็มที่ ครูไฮสโคปจะทํางานร่วมกันเป็นคณะ ในแต่ละวันครูทุกคนจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก ข้อมูลนี้ได้จากการสังเกตและการมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กในกิจวัตรประจําวัน

    
Vocabulary (คำศัพท์)
Open Classroom - ห้องเรียนแบบเปิด
Plan – วางแผน
Repetition – การทำซ้ำ
Rhythm - จังหวะ
Reverence - เคารพ

Applied (การประยุกต์ใช้)
        สามารถนำวิธีการสอนต่างๆ ไปปรับใช้กับการจัดการเรียนการสอนของตนเองได้ในอนาคต รู้จักการเก็บข้อมูลขณะที่เด็กทำกิจกรรม รู้จักหลักการสะท้อนกลับข้อมูล รู้จักวิเคราะห์ข้อมูลเด็กปฐมวัย

Evaluation (การประเมิน)
Self (ประเมินตนเอง)
        ตั้งใจเรียน เตรียมความพร้อมในการนำเสนองานที่ได้รับมอบหมาย นำเสนองานได้ชัดเจน และมีส่วนร่วมในการสนทนาถามตอบกับผู้อาจารย์และเพื่อนในขณะเรียน
Friends (ประเมินเพื่อน)
        เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียน มีการสนทนาถามตอบกับอาจารย์ ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอและทุกกลุ่มเตรียมงานนำเสนอมาเป็นอย่างดี สวยงาม เนื้อหาครบถ้วน น่าสนใจ
Teacher (อาจารย์)
        อาจารย์คอยชี้แนะหรือให้แนะนำเนื้อหาเพิ่มเติม มีการสรุปเนื้อหาในช่วงท้ายการรายงานทำให้ได้ทบทวนและชัดเจนยิ่งขึ้น แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใสค่ะ

Photo Gallery (ประมวลภาพกิจกรรม)


































วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3
วันจันทร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 .

Knowledge (ความรู้)
·       สรุปเนื้อหาการเรียนการสอนจากสัปดาห์ที่แล้ว
·       แบ่งกลุ่ม (กลุ่มละ 4-5คน) ช่วยกันระดมความคิดในการเลือกหน่วยที่จะสอน และทำ Mind mapping เนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับหน่วยที่จะสอนก่อนลงมือทำแผนการสอน

กลุ่ม 1 เรื่อง ผีเสื้อแสนสวย


สิ่งที่อาจารย์เพิ่มเติม 
      1.อาจารย์แนะนำการทำ Mind mapping ที่ถูกต้องและมีความสมดุล น่าสนใจ น่าอ่าน
      ๒.อาจารย์แนะนำในเรื่องการเรียงลำดับเนื้อหา ว่าส่วนใดควรนำมาเขียนก่อนและหลัง
      ๓.อาจารย์แนะนำเนื้อหาที่ควรเพิ่มเติมในเรื่องประโยชน์ของผีเสื้อ



การบ้าน (รายบุคคล) Mind Mapping ที่แก้ไขจากแผ่นใหญ่

กลุ่ม
2 เรื่อง ยานพาหนะ



กลุ่ม 3 เรื่อง ตัวเรา



กลุ่ม 4 เรื่อง ฝนจ๋า


กลุ่ม 5 เรื่อง แหล่งน้ำ



กลุ่ม 6 เรื่อง ของเล่นของใช้



Vocabulary (คำศัพท์)
Butterfly - ผีเสื้อ
Vehicle - ยานพาหนะ
Body - ตัวเรา
Rain - ฝน
Water source - แหล่งน้ำ
Toy - ของเล่น
Appliance - ของใช้

Applied (การประยุกต์ใช้)
      จากการเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ สามารถนำไปวางแผนสำหรับการออกแบบแผนการสอนให้เหมาะสมกับประสบการณ์สำคัญของเด็กได้ ได้เรียนรู้หน่วยที่น่าสนใจและสามารถนำมาสอนได้ ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกของเรื่องที่เลือก ทำให้ได้ฝึกทักษะการคิดอย่างมีลำดับขั้นตอนและเป็นระบบ

Evaluation (การประเมิน)
Self (ประเมินตนเอง)
        เข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจฟังที่อาจารย์พูดมีข้อเสนอและพูดคุยแลกเปลี่ยนกับอาจารย์เมื่ออาจารย์ถามคำถาม ได้รับความรู้และเข้าใจถึงการเตรียมเนื้อหาในเรื่องนั้นๆ
Friends (ประเมินเพื่อน)
        เพื่อนทุกคนตั้งใจเรียนและช่วยกันหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนและตอบคำถามอาจารย์ได้เป็นอย่างดี
Teacher (ประเมินอาจารย์)
        อาจารย์มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลาและเตรียมการสอนมาเป็นอย่างดีอาจารย์แต่งกายสุภาพเหมาะสมสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักศึกษาได้อาจารย์คอยให้คำแนะนำและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเสนอเพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น


Photo Gallery (ประมวลภาพกิจกรรม)
















บันทึกการเรียนครั้งที่ 17 วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.00-15.30 น. ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30 ...