บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 8
วันจันทร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561
เวลา
11.30 - 14.30 น.
Knowledge
(ความรู้)
- สำคัญ
#ประสบการณ์
ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้
#การเลือกเรื่องที่จะสอนต้องเป็นเรื่องใกล้ตัวเด็ก
ต้องดูบริบท และต้องมีความปลอดภัยกับเด็กและไม่มีผลกระทบต่อตัวเด็ก
#สาระที่ควรเรียนรู้
มาจากความสนใจ/ความต้องการในการเรียนรู้ของเด็ก และต้องดูบริบทของโรงเรียนด้วย
- เขียนแผนการสอน (กิจกรรมเคลื่อนไหวจังหวะ) ตามวันที่ได้รับหมายหมายภายในหน่วยของตนเอง
- กิจกรรมเคลื่อนไหวลังหวะ
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
หมายถึง กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่าง กายอย่างอิสระ
โดยใช้เสียงเพลง จังหวะ และทำนอง คำคล้องจอง หรือเครื่องดนตรีประกอบ การเคลื่อนไหว
เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้จังหวะ
และควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้
ความสำคัญและความเป็นมาของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัยจะเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อใช้พลังกายและถ่ายพลังที่มีอยู่ล้นเหลือออกมา
แต่ในขณะเดียวกันร่างกายและจิตใจของเด็กจะสมบูรณ์จากการเคลื่อนไหว ดังนั้น
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะจึงได้รับการจัดเป็นกิจกรรมหลักเพื่อพัฒนาเด็ก
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
มีผลต่อการพัฒนาการเด็ก
ดังนั้นการใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะจึงมีผลทำให้เด็กเรียนรู้ร่างกายของตนว่า
การใช้ร่าง กายแต่ละส่วนอย่างไร ซึ่งมีความหมายต่อเด็กมาก
เด็กจะมีโอกาสได้ประเมินความสามารถของตนเอง ทำให้เด็กได้คิด
ได้ตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวแบบใด อย่างไร อีกทั้ง
การเคลื่อนไหวไปพร้อมเพื่อนอย่างมีความหมาย จะทำให้เด็กเรียนรู้การปฏิบัติต่อกัน
ทำให้เด็กเกิดความมั่นใจทั้งเป็นการลดอัตตา (Ego)
ไปสู่การมีเหตุผลและคุณธรรม (superego) เด็กได้รับการฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่
บุคลิก ขอบเขตรอบตัวด้วยการใช้เสียงเพลง ดนตรีทำให้เด็กเรียนรู้จังหวะ
และเกิดจินตนาการ ดังนั้น
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะไว้เป็นกิจกรรมหลักในตารางกิจกรรมประจำวันที่เด็กจะต้องได้รับการส่งเสริม
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะมีประโยชน์ต่อเด็กปฐมวัย
·
การเคลื่อนไหวจะช่วยให้สายตาของเด็กมีพัฒนาการ
รู้ช่องว่างระหว่างบุคคลและสิ่งของ
·
เด็กต้องการเดิน วิ่ง หรือกลิ้ง
การกระทำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลไกของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกาย
·
การเคลื่อนไหวจะช่วยให้เด็กรับรู้ภาพที่ปรากฏ
แยกออกระหว่างวัตถุกับตัวเด็ก รวมทั้งการกะระยะใกล้-ไกลของตัวเด็กกับวัตถุ
·
ความสามารถของการควบคุมและการประเมินตนเองเกี่ยวกับระยะ
น้ำหนัก แรง ความเร็ว ความเร่ง
ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวที่เด็กควรตระหนักรู้
·
ความสามารถในการจำแนกเสียงต่างๆ
ในสิ่งแวดล้อมและวัตถุในสิ่งแวดล้อมว่ามีความสัมพันธ์อย่างไร
และเด็กเองควรจะตอบสนองอย่างไร อีกทั้งยังเป็นเรื่องของการตระหนักในการฟัง
·
กลไกการรับรู้จะได้รับการพัฒนา
เด็กจะมีความสามารถในการนำเอาการรับรู้สิ่งเร้าด้วยการฟังและการสังเกตมาแสดงออกทางการเคลื่อนไหว
·
เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันของรูปร่าง
และเด็กที่แตกต่างกันในแต่ละอายุจะมีขนาดและรูปร่างต่างกัน
ดังนั้นเด็กจะเรียนรู้ตนเองและสมรรถนะตนเองต่างกัน
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดลักษณะของการจัดกิจกรรม
ดังนี้
·
เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่
ที่มีรูปแบบของการเคลื่อนไหวดังนี้
·
การเคลื่อนไหวพื้นฐาน ได้แก่
การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
·
การเลียนแบบ เช่น ท่าทางสัตว์ ท่าทางคน
เครื่องยนต์กลไก และเครื่องเล่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
·
การเคลื่อนไหวตามบทเพลง เช่น การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางประกอบเพลง
·
การทำท่าทางกายบริหารประกอบเพลง เช่น
การทำท่าทางกายบริหารตามจังหวะและทำนองเพลง หรือคำคล้องจอง
·
การเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์ เช่น
การเคลื่อนไหวที่ให้เด็กคิดสร้างสรรค์ท่าทางขึ้นเอง อาจชี้นำด้วยการป้อนคำถาม
เคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณ์ประกอบ เช่น ห่วงหวาย แถบผ้า ริบบิ้น ถุงทราย
·
การเล่นหรือการแสดงท่าทางตามคำบรรยายเรื่องราว
เช่น การเคลื่อนไหวหรือแสดงท่าทางตามจินตนาการจากเรื่องราวหรือคำบรรยายที่ครูเล่า
·
การปฏิบัติตามคำสั่งและข้อตกลง เช่น
การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางตามสัญญาหรือคำสั่งตามที่ได้ตกลงไว้ก่อนเริ่มกิจกรรม
·
การฝึกทำท่าทางเป็นผู้นำ-ผู้ตาม เช่น
การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางจากความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเอง แล้วให้เพื่อนปฏิบัติตาม
·
ใช้เพลง เครื่องดนตรีประกอบการเคลื่อนไหว
คำคล้องจอง
·
ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ส่วนต่างๆ
ของร่างกายให้ประสานสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ด้วยการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์สู่การเคลื่อนไหวลักษณะต่างๆ
คือ เคลื่อนช้า ได้แก่ คืบ-คลาน เคลื่อนเร็ว เช่น วิ่ง เคลื่อนนุ่มนวล เช่น การบิน
การไหว้ เคลื่อนไหวขึงขัง เช่น การกระทืบเท้าดังๆ ตีกลองดังๆ
การเคลื่อนไหวแสดงท่าทางร่าเริงมีความสุข เช่น การตบมือตามจังหวะ
และการเคลื่อนไหวแสดงความเศร้าโศก เสียใจ เช่น แสดงสีหน้า ท่าทาง เป็นต้น
·
การเคลื่อนไหวแสดงทิศทาง เช่น ข้างหน้า
ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา เคลื่อนตัวขึ้น-ลง เคลื่อนไหวรอบทิศ
การจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ
ควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้
·
จัดกิจกรรมท่ามกลางบรรยากาศความสุขและสนุกสนาน
ชวนเด็กร่วมกิจกรรมดีกว่าการบังคับ
·
เด็กควรได้รู้จักชื่อท่าการเคลื่อนไหวเบื้องต้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาไปด้วย
·
ส่งเสริมให้เด็กเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นไปตามธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
และตอบสนองความต้องการของเด็กให้เพียงพอ
·
เน้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็กมากกว่าการทำท่าทางตามครูบอกหรือการสาธิต
·
ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้กล้ามเนื้อใหญ่ก่อน
ได้แก่ การใช้กล้ามเนื้อลำตัว แขน ขา
·
สร้างทัศนคติที่ดีต่อตนเองให้แก่เด็กว่า
ตนความสามารถที่จะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่าง กายได้
เป็นการพัฒนาการรับรู้เกี่ยวกับตนเองและพัฒนาจิตใจ
สร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้แก่เด็ก
Vocabulary (คำศัพท์)
Development
- พัฒนาการ
Imagination - จินตนาการ
Muscle - กล้ามเนื้อ
Grow
- เจริญเติบโต
Attitude
- ทัศนคติ
Applied
(การประยุกต์ใช้)
จากการเรียนในคาบนี้ จึงเข้าใจหลักสำคัญได้ว่ากิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
จากการเล่นที่เป็นประโยชน์ ขณะที่เด็กได้ทำกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ
เด็กจะได้พัฒนาทักษะหลายทักษะที่จำเป็น ได้แก่ ทักษะทางสังคมได้ผูกมิตรกับผู้อื่น
ทักษะชีวิตที่จะเรียนรู้และเข้าใจสิ่งรอบตัว ทักษะการคิดที่ได้คิดและตัดสินใจ
และทักษะทางกายในการเคลื่อนไหว เข้าใจถึงการจัดกิจกรรมและการหาสื่อ/อุปกรณ์ที่เหมาสมในการนำมาจัดกิจกรรม
Evaluation (การประเมิน)
Self (ประเมินตนเอง)
เข้าเรียนตรงเวลา สนทนาโต้ตอบเมื่ออาจารย์ถามคำถามหรือให้เสนอคำตอบ
จดบันทึกเนื้อหาสำคัญและจดหัวข้อที่ต้องการสืบค้นเพิ่มเติมจากที่เรียน
Friends
(ประเมินเพื่อน)
เพื่อนตั้งใจเรียน สนทนาโต้ตอบกับอาจารย์ในการเรียนการสอน
ไม่คุยส่งเสียงดังและแต่งกายสุภาพเรียบร้อยทุกคน
Teacher
(อาจารย์)
อาจารย์แต่งกายสุภาพ
สะอาดและเรียบร้อย มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
เนื้อหาที่สอนเข้าใจง่ายและอาจารย์อธิบายได้อย่างเข้าใจ ชัดเจน
ฝึกให้นักศึกษาคิดให้ละเอียด รอบคอบและเตรียมพร้อมสู้การเป็นนักศึกษาฝึกสอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น